การประชุมวิชาการประจำปีมีความสำคัญต่อการพัฒนาความรู้และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการเพราะเป็นการเปิดโอกาสให้นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องได้นำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับความรู้จากนักวิชาการชั้นนำที่รับเชิญมาเป็นองค์ปาฐก นอกจากนี้ การที่นักวิชาการได้รู้จักกันข้ามสถาบัน สาขาวิชา และประเทศจะช่วยให้สามารถพัฒนาความรู้และก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการที่กว้างขวางต่อไป
ในประเทศไทย การประชุมวิชาการประจำปีด้านมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาเคยจัดมาอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วิชาความรู้ของทั้งสองสาขาวิชาพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก หากแต่ในระยะหลังการประชุมดังกล่าวได้ขาดหายไปด้วยเหตุผลบางประการ ส่วนการประชุมวิชาการประจำปีของเครือข่ายสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาระดับบัณฑิตศึกษาแม้จะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและมีคุณูปการต่อสาขาวิชา แต่ก็เป็นการประชุมในระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งมีข้อจำกัดในการนำเสนอและแลกเปลี่ยนความรู้ในระดับที่ลึกซึ้งกว้างขวาง
ในการประชุมวิชาการประจำปีด้านมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาครั้งที่ 1 หัวข้อ “เชื่อม ข้าม เผชิญหน้า ณ จุดตัด” ในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ซึ่งเกิดจากความต้องการของเครือข่ายทางวิชาการด้านสังคมวิทยามานุษยวิทยาที่ต้องการกระตุ้นบรรยากาศการถกเถียงทางวิชาการด้วยแนวคิดใหม่ๆ อีกทั้งเป็นการเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายทางวิชาการที่ค่อนข้างซบเซาภายใต้บรรยากาศความตึงเครียดเชิงโครงสร้างต่างๆ ทำให้พบว่า ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือวิกฤติการเมืองในช่วงทศวรรษเศษที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต คติความเชื่อ ระบบคุณค่า และความสัมพันธ์ของคนในสังคมอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว เครือญาติ สถานที่ทำงาน สถานศึกษา เพื่อนฝูง ฯลฯ แต่เราต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในแง่มุมเชิงมานุษยวิทยาและสังคมวิทยารวมถึงตอบคำถามเกี่ยวกับสภาพสังคม วัฒนธรรมรวมถึงการเมืองไทยร่วมสมัยอย่างกว้างขวาง
ความสำเร็จจากการประชุมครั้งที่ 1 ทำให้เครือข่ายเห็นร่วมกันว่าควรมีการดำเนินงานเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงจัดให้มีการประชุมวิชาการด้านมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาครั้งที่ 2 ในวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2563 ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ภายใต้ หัวข้อ คลี่–คลาย–ญ่าย–เคลื่อน” (Dynamism, Deconstruction, De-territorialization, Destabilitzation)
คลี่
หมายความถึง การเปลี่ยนแปลง พลวัต พัฒนาการของอีสานยุคสงครามเย็น สู่การข้ามแดน
คลาย
หมายความถึง การเผยตัว การรื้อสร้างความเข้าใจสังคมในปัจจุบัน
ญ่าย
เป็นคำในภาษาอีสาน หมายถึง การกระจายตัว De-localize De-territorialization
เคลื่อน
หมายถึง การขับเคลื่อนไปข้างหน้า Mobility
ทั้งนี้ เพื่อกระชับและขยายเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนพูดคุยนำเสนอและแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านสังคม วัฒนธรรม การเมือง รวมถึงด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิชาการสังคมศาสตร์ โดยเน้นประเด็นวิชาการที่เกิดขึ้นในภูมิภาคอีสานรวมทั้งการทบทวนองค์ความรู้ด้านสังคมวิทยามานุษยวิทยาในภาคอีสานและภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและองค์รวมรู้อื่นที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการตอบโจทย์ด้านการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนในอนาคต

วัตถุประสงค์
- เพื่อให้นักมานุษยวิทยา นักสังคมวิทยา นักวิชาการสาขาอื่น รวมถึงนิสิตนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ได้มีโอกาสนำเสนอและแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านสังคม วัฒนธรรม การเมือง รวมถึงด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อกระชับและขยายเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านมานุษยวิทยา สังคมวิทยา และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

องค์กรร่วมจัด
- สาขาการพัฒนาสังคม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (องค์กรหลัก)
- ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
- คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- สมาคมนักสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาสยาม (สสมส., SASA)
- กลุ่มวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
- ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
